สามารถ ดู "บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับ

จาก ลิงค์ ส่วนล่างของหน้าบทความนี้ ค่ะ



หากบทความเหล่านี้ มีประโยชน์ อ่านแล้ว ชอบ อยากให้กำลังใจ เจ้าของบล็อก

สามารถทำได้เพียง กดแบ่งปัน ไปตาม google + หรือ facebook หรือ twiter

ขอบคุณค่ะ

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

รักษา ความรัก กันดีกว่า



แรกรัก

ได้แรงบันดาลใจ มาจาก คู่รัก  สองคู่  รวมถึง เรื่องราว ของเราเอง เป็นสำคัญด้วย
คู่แรก … เป็นคู่รัก ที่ เพิ่งตกลงปลงใจรักกัน … แต่ ก็ เจออุปสรรค แฟนเก่า มาระราน ก็คงเหมือนฉัน เมื่อตอนแรกๆ ที่เริ่มคบกับใครคนหนึ่ง อยู่ดีๆ คนเก่าๆ ก็ โผล่มา ทั้งที หายหัวไปนาน และไม่เคยเห็นความสำคัญของเรา … แต่ พอ เรามีใครขึ้นมาเป็นตัวเป็นตน   กรูก็เริ่มสำคัญสำหรับมึงขึ้นมาทันที …. แต่ก็ไม่เป็นปัญหา สำหรับ คนรักกันใหม่ๆ ต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กัน และ บอกว่า ไม่เป็นไร เราเข้าใจกันก็พอ  จับมือ ฝ่าฟันกันทุกสิ่ง เพื่อให้เราได้ รักกัน ในที่สุด

คู่ที่สอง … เป็นคู่รัก สักระยะ … สักระยะ ที่มากพอ ที่ จะแสดงความเป็นตัวตนออกมาให้ได้เห็นกัน ยามรักกันใหม่ ๆ ก็หวานชื่น โลกทั้งโลก สดใส คิดถึงกันจนแทบจะกลืนกินกันไปทั้งตัวยามได้เจอ …  วันเวลา ผ่านไป  ทะเลาะกันบ่อยขึ้น เกิดความเอาแต่ใจ เกิดทิฐิ ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง คิดแต่ว่าตัวเองถูก เพียงเพื่อนจะเอาชนะ  … เลิกก็เลิก ไม่แคร์ … คำพูดแย่ๆ หลุดออกมาจากปาก ของคนที่เคยมีความรักหวานแหว๋ว มากมาย ชนิดที่ ไม่ได้นึกถึง วันดีๆ ที่ผ่านมาเลย  ….
นั่งมอง คู่รักทั้งสอง แล้ว ก็ ทำให้เห็น ถึง ความจริง ของ ความรัก อีกอย่างหนึ่ง
รักกันแรกๆ อุปสรรค ก็ คือ คนอื่น มักจะมาเป็นมาร ประเภทหวงก้าง ก็มีเยอะ..... แต่ก็ สู้ฝ่าฟันไปจนได้
แต่ พอรักกันไปนานๆ .... อุปสรรค กลับกลาย เป็น มาร ในใจคนทั้งคู่ ... ทิฐิ จนไร้ศรัทธาที่จะอยากฝ่าฟัน ...
ฉันได้แต่หวังว่า คู่ที่รัก กันใหม่ๆ เมื่อเวลาผ่านไป จะพยายามรักษาความรัก ที่เกิดขึ้น กันไว้อย่างดี  หาก มีปัญหา เกิดขึ้นระหว่างกัน ก็ขอให้ นึกถึง ความรักวันแรกๆ นึกถึง สิ่งดีๆ ที่เคยร่วมกันทำ ให้มากๆ  อย่า มัวแต่ จะคิด เอาชนะ หรือ หาเรื่องต่อความยาวสาวความยืดกันเลย
ขอให้ทุกคนที่กำลังมัปัญหากับคนรัก รู้จัก ปล่อยวาง แล้วกลับมาย้อนคิดว่า จะทำอย่างไรให้ ความสัมพันธืของเรานั้นดีขึ้น  มากกว่า ที่ จะมัวแต่ เอาชนะกัน ….

ความรัก ….

ิโดย ดังตฤณ DUNGTRIN

• ความรักเป็นภาวะปรุงแต่ง
อาศัยบุญเก่าที่เคยอยู่ร่วมกันเป็นตัวผลักดันให้มาพบและคุ้นกัน
และอาศัยบุญใหม่ทำให้อยู่ร่วมกันรอด


• ถ้ายังไม่มีความรัก
อย่าเพิ่งรีบหาความรัก
แต่ให้เร่งรู้วิธีสร้างความรัก
ด้วยการใจเย็นเป็น เห็นใจเป็น
พูดดีเป็น อภัยเป็น ไม่เสแสร้งเป็น
แล้วในที่สุดความรักจะตามหาคุณเจอเอง


• การมีคนรัก
ไม่ได้หมายความว่าคุณรู้จักรัก
ความรู้สึกแสนดี การมีเรื่องประทับใจได้ช่วยกันสานสายใยผูกพัน
เป็นเพียงเปลือกนอกของความรัก
...เนื้อแท้ของความรัก
คือการมีกันและกันในยามยาก
...แก่นสารของความรัก
คือการรู้ทางที่จะร่วมกอดคอ
เดินหน้าไปสู่ความดับทุกข์
ไม่เหลือแม้น้ำตาอาลัยกันในยามตาย


• กุศลแรงที่สุดที่ช่วยรักษาชีวิตคู่ไว้
คือกุศลทางใจอันเกิดจากการคิดเกื้อกูลกัน
ไม่ยอมตามความคิดประทุษร้ายกัน ตั้งใจจริงและลงมือทำ


• แก้กรรมสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
แค่เอาความหุนหันพลันแล่นในการพูดออกไปจากทุกคนในบ้าน
ก็แก้กรรมเก่าได้เกือบทุกรูปแบบแล้วครับ


• ถ้าไม่เคยพูดอะไรให้คนที่คุณรักเสียใจ
แปลว่าคุณไม่เคยพูดกับเขาหรือเธอเลยสักวัน
แต่ถ้าพูดอะไรให้คนที่คุณรักเสียใจได้ทุกวัน
แปลว่าคุณไม่เคยรับฟังคำพูดของเขาหรือเธอเลยสักคำ


• ในการอยู่ร่วมกันกับใครสักคน
ไม่ต้องทำดีก็อาจเผอิญได้อย่างใจคุณ
แต่คุณจำเป็นต้องมีดี ถึงจะเห็นใจเขาได้


• อยู่ร่วมกันต้องสร้างความรู้สึกอันเป็นบุญกุศลไปในทางเดียวกันให้ได้ก่อน
ไม่งั้นช่องว่างระหว่างคนจะเป็นอุปสรรคให้เจรจาไม่รู้เรื่อง


• คู่แท้เป็นแค่คำหลอกๆ
จริงๆมีแต่คู่บุญ หรือคนที่ใช่ที่สุดที่เราเลือก
แปลว่าถ้าใจเราไม่อยากมีคู่ ก็ไม่มีของแท้อะไรมาบังคับใจได้


• พบรักแท้ว่ายากแล้ว
เหมือนโชคดีเหลือเกินแล้ว
แต่ความจริงคือพบทางพ้นทุกข์นั้นยากกว่า
และโชคดีกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้
เพราะความรักเป็นสิ่งที่เจืออยู่ด้วยความว้าวุ่น
และต้องยุติลงด้วยการจากเป็นหรือจากตาย
แต่ความพ้นทุกข์มีแต่ความสงบที่เต็มบริบูรณ์
กับทั้งเป็นอมตะอย่างแท้จริง ไม่มีการพรากจากอีกเลย

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

คนที่มีรักแท้ นั้น มีบุญ

คนที่มีรักแท้ คนที่เจอคนที่รักและทุ่มเทให้เราสุดชีวิต คุณมีบุญกับรักแท้เค้ามามาก เมื่อมีเค้าอยู่ถนอมไว้เถอะ หลายคนเลือกที่จะทะเลาะมากกว่าถนอม เมื่อวันนึงที่มันผ่านไปแล้ว จะเรียกร้องคงยาก เขาก็คงเป็นได้แค่เพียงสายลมที่อยู่ข้างตัวคุณเท่านั้นเอง!!"

 

>>>> วาทะ by ริว จิตสัมผัส ... รายการคนอวดผี  4 มกราคม 2555

ข้อความดีๆ จาก คุณดังตฤณ DUNGTRIN

 

• ฝึกยอมรับความจริงไว้แต่เนิ่นๆ
เพราะยิ่งเวลาผ่านไป
คุณจะยิ่งต้องยอมรับความจริงที่ไม่น่ายอมรับมากขึ้นทุกที
• ในการอยู่ร่วมกันกับใครสักคน
ไม่ต้องทำดีก็อาจเผอิญได้อย่างใจคุณ
แต่คุณจำเป็นต้องมีดี ถึงจะเห็นใจเขาได้
• อยู่ร่วมกันต้องสร้างความรู้สึกอันเป็นบุญกุศลไปในทางเดียวกันให้ได้ก่อน
ไม่งั้นช่องว่างระหว่างคนจะเป็นอุปสรรคให้เจรจาไม่รู้เรื่อง
• อย่าคาดหวังจะให้ใครต่อใครเข้าใจคุณ
เพราะเกือบทุกคนก็กำลังสับสนอยู่กับการทำความเข้าใจตนเองเช่นกัน
• กว่าจะเลิกอยากให้คนอื่นเข้าใจคุณ
คุณจำเป็นต้องเข้าใจตัวเองให้ขาด
และเห็นใจคนอื่นมากๆได้เสียก่อน
และพอเลิกอยากให้คนอื่นเข้าใจนะครับ
กระแสความเข้าใจคนอื่นจะเริ่มก่อตัวขึ้นในเราเอง
ตลอดจนดึงดูดเขามาสนใจเราด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นไปแทน
นี่คือธรรมชาติของจิตที่แผ่ออกไปด้วยกระแสเมตตาโดยแท้
• เมื่อเกิดความขัดแย้งทางความคิด
ถ้าคุณไม่คิดหาคำพูดดีๆ แนวโน้มคือคำพูดแย่ๆจะชิงหลุดจากปากออกมาก่อน
ความขัดแย้งมีแรงอัด มีพลังผลักดันให้อยากก่อวจีทุจริต
ทางหนึ่งที่จะปิดประตูใส่มัน คือฝึกคิดเลือกคำพูดที่ดี ที่นุ่มนวล
หรือที่กรองแล้วว่าระคายโสตน้อยที่สุด
ตัวการฝึกคิด จะเป็นกรรมดีในทั้งแง่ของมโนสุจริตและวจีสุจริต
ตลอดจนเป็นการฝึกสติให้เกิดสมาธิในการพูด
เพราะการเอาชนะแรงอัดในการพูดทางร้าย
ก่อให้เกิดความเข้มแข็งทางใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ยอมอ่อนแอลงทุกที
เปิดโอกาสให้ตัวเองก่อมโนทุจริตและวจีทุจริตเพิ่มขึ้นทุกวัน
ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยเสรีภาพทางความคิด
อันขัดแย้งอย่างยากจะหาทางประนีประนอมนี้ครับ
-
Dungtrin -

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

การช่วยขจัดทุกข์ผู้อื่น

เขียนโดย กลุ่มงานสุขศึกษา

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2011 เวลา 10:49 น.

หากจะตั้งคำถามว่า”อะไรมีค่าที่สุดในชีวิต” แต่ละคนคงจะมีคำตอบที่แตกต่างกันไปแต่น่าจะมีคนจำนวนมากที่ตอบว่า”ชีวิตคือสิ่งมีค่ามากที่สุด”เพราะแต่ละคนดิ้นรนต่อสู้กับปัญหารอบตัว เช่น การทำงาน การเจ็บป่วย การศึกษา เพื่ออะไร ? ถ้าไม่ใช่เพื่อให้มีชีวิตที่ดีและมีความสุข ชีวิตของใคร .. คนนั้นก็ต้องดูแลเองใช่หรือไม่ ? ถ้าตอบว่าใช่ .. โลกนี้คงจะแห้งแล้งไม่น่าอยู่ คงจะมีหลายคนที่ชีวิตเฉาตายไป ในความเป็นจริงแล้วเราต้องดูแลเอาใจใส่กันตั้งแต่ในครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อนที่โรงเรียน ที่ทำงาน โดยเฉพาะในยามที่มีความทุกข์เรามักต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น และคนอื่น .. เมื่อมีทุกข์ เขาก็ต้องการความช่วยเหลือจากเราเช่นกัน เวลาที่มีความทุกข์เราจะต้องการเพื่อนมากที่สุด ต้องการคนที่จะมารู้มาเข้าใจว่าเรากำลังทุกข์กาย ทุกข์ใจ ช่วยอยู่เป็นเพื่อน รับฟังปัญหา ช่วยหาแนวทางแก้ไข เห็นใจ ปลอบใจ ให้กำลังใจ สิ่งนี้เป็นน้ำใจที่เราทุกคนต้องการมากที่สุด

โดยปกติแล้วคนทุกคนจะพยายามแก้ไขความทุกข์ที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง แต่ในบางครั้งบางปัญหาแก้ไขเองไม่ได้ จะทนแบกรับต่อไปก็ไม่ไหว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนใกล้ชิด คนในครอบครัวหรือชุมชนเดียวกันต้องให้ความสนใจ เข้าใจ เห็นใจ และให้ความช่วยเหลือ ผู้อยู่ใกล้ชิดควรช่วยเหลือ ดังนี้

1. สร้างสัมพันธภาพด้วยการพูดคุยซักถาม เช่น ดูหน้าตาไม่ค่อยสบายเป็นอะไรรึเปล่า ? ถามถึงทุกข์สุขในครอบครัวหรือการทำมาหากินเป็นอย่างไร ?

2. พูดคุยเพื่อหาปัญหาและเพื่อให้ผู้ทุกข์ใจเข้าใจสาเหตุของการเกิดปัญหานี้

3. ช่วยกันคิดหาทางออกของปัญหา พิจารณาว่ามีปัญหาอะไรบ้าง พยายามหาทางออกในการแก้ปัญหาหลาย ๆ ทางเพื่อเป็นทางเลือก ชั่งน้ำหนักของแต่ละปัญหา และเรียงลำดับปัญหาตามความรีบด่วนจากด่วนมากไปจนถึงเรื่องที่รอได้ หรือเรื่องที่แก้ได้ยากไปจนถึงเรื่องแก้ได้ง่ายโดยดูว่ามีใครที่เกี่ยวข้อง ใครจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง ต้องไปหาใครก่อน / หลัง หรือเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยตัวเอง คิดไว้ก่อนว่าจะพูดอย่างไร ? ทำอย่างไร ? เตรียมใจไว้เผื่อไม่เป็นไปตามที่คิดหวังไว้ บางปัญหาสามารถแก้ไขได้โดยตรงทันทีตามที่เราต้องการ แต่บางปัญหาอาจต้องชะลอยืดเวลาออกไปเพื่อตั้งหลักหาทางแก้ไขหรือต้องประนีประนอมพบกันครึ่งทาง

แต่แม้ว่าจะแก้ไขปัญหาตามที่ต้องการไม่ได้ทั้งหมดก็ยังดีกว่าไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ในกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยคงต้องให้ผู้ทุกข์ใจยอมรับความจริง ยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น ผู้ที่สามารถยอมรับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น คนที่เข้มแข็ง กล้าหาญในการเผชิญกับสิ่งที่ไม่ดี ความล้มเหลวในชีวิต สามารถสู้ชีวิตต่อไปได้เปรียบเสมือนคนที่ล้มแล้วพยายามลุกขึ้นเดินต่อไปย่อมจะมีโอกาสดีกว่าคนที่ไม่ยอมลุกขึ้น

4. ถ้ายังทำใจไม่ได้หรือในรายที่เคยมีปัญหาทางสุขภาพจิตมาก่อนควรจะไปพบผู้ที่มีความรู้ที่สามารถให้การช่วยเหลือได้ที่สถานบริการสาธารณสุขต่าง ๆ ใกล้บ้าน เช่น สถานีอนามัย โรงพยาบาล

หากคนรอบตัวท่านกำลังมีความทุกข์ .. ขอให้ท่านให้ความสนใจ ให้ความสำคัญกับความทุกข์ที่เขาเผชิญอยู่ สังเกตเขาสักนิด ซักถามเขาสักหน่อย อยู่เป็นเพื่อนเขาบ้าง เหตุการณ์ร้าย ๆ คงจะไม่เกิดขึ้น การดูแลกันในยามทุกข์เป็นสิ่งมีค่าที่ท่านสามารถทำได้อย่างแน่นอนค่ะ

ด้วยความปรารถนาดีจาก .... กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลลำปาง

E - mail address Health.edlph@gmail.com

--------------------------------------------------------------------------------------------------

 

การช่วยขจัดทุกข์ผู้อื่น

โดย.กรมสุขภาพจิต

หากจะตั้งคำถามว่า อะไรมีค่าที่สุดในชีวิตแต่ละคนคงจะมี

คำตอบที่แตกต่างกันไป แต่คงจะมีคนจำนวนมากตอบว่า ชีวิตคือสิ่ง
มีค่ามากที่สุดเราแต่ละคนดิ้นรนต่อสู้กับปัญหารอบตัว เช่น การ
ทำงาน การเจ็บป่วย การศึกษา เพือะไรถ้าไม่ใช่เพื่อให้มีชีวิตที่ดีและ
มีความสุข

ชีวิตของใคร คนนั้นก็ต้องดูแลเองใช่หรือไม่ ถ้าตอบว่าใช่ โลกนี้คงจะแห้งแล้งไม่น่าอยู่คงจะมีหลาย

คนที่ชีวิตเฉาตายไป ในความเป็นจริงเราต้องดูแลเอาใจใส่กันตั้งแต่ในครอบครัว เพื่อนบ้าน เพื่อนในโรงเรียน ที่ทำงาน โดยเฉพาะในยามที่มีความทุกข์ เราก็ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น คนอื่นเมื่อมีทุกข์ เขาก็ต้องการความช่วยเหลือจากเราเช่นกัน เวลาที่มีความทุกข์เราจะต้องการเพื่อนมากที่สุด ต้องการคนที่จะมารู้มาเข้าใจว่าเรากำลังทุกข์กาย ทุกข์ใจ ช่วยอยู่เป็นเพื่อน รับฟังปัญหา ช่วยหาแนวทางแก้ไข
เห็นใจ ปลอบใจ ให้กำลังใจ สิ่งนี้เป็นน้ำใจที่เราทุกคนต้องการมากที่สุด

ฉะนั้น ถ้าคนรอบตัวท่านกำลังมีความทุกข์ขอให้เราให้ความสนใจ ให้ความสำคัญกับความทุกข์ที่

เขาเผชิญอยู่ ไม่มีใครหรอกอยากจมอยู่ในกองทุกข์ ถ้าเราไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เขาอาจจะหาทางออกหรือแก้ปัญหาด้วยวิธีที่เป็นอันตรายต่อตัวเองหรือคนใกล้ชิด บางคนกว่าจะคิดได้ว่าถ้าเราสังเกตเขาสักนิดซักถามเขาสักหน่อย อยู่เป็นเพื่อนเขาบ้างเหตุการณ์ร้ายๆ คงจะไม่เกิดขึ้น เมื่อคิดได้มันก็สายไปแล้ว ฉะนั้นการดูแลกันในยามทุกข์จึงเป็นสิ่งมีค่า ที่ท่านสามารถทำได้อย่างแน่นอน

ความทุกข์เป็นของคู่กับมนุษย์ทุกคนไม่เลือกเพศ ฐานะหรือวัย เด็กก็

ทุกข์ประสาเด็ก คนแก่ก็ทุกข์ประสาคนแก่ คนที่มีฐานะการเงินดีมีชื่อเสียงเกียรติยศในสังคมก็ยังหนีไม่พ้น ใครจะทุกข์มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองความทุกข์ที่เกิดขึ้นอย่างไร และมองเห็นทางแก้ไขผ่อนคลายความทุกข์นั้นหรือไม่

โดยปกติแล้ว คนทุกคนจะพยายามแก้ไขความทุกข์ที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง แต่ในบางครั้งบางปัญหาแก้ไข

เองไม่ได้ จะทนแบกรับต่อไปก็ไม่ไหว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนใกล้ชิด คนในครอบครัวหรือชุมชนเดียวกัน ต้องให้ความสนใจ เข้าใจ เห็นใจและให้ความช่วยเหลือ อย่าให้เขาเกิดความรู้สึกว่าเขาทุกข์อยู่คนเดียว แต่ควรทำให้เขารู้สึกว่า เมื่อเขาทุกข์แล้ว เขายังมีคนที่ให้ความช่วยเหลือ ให้กำลังใจในการแก้ไขความทุกข์ ให้ทุกข์นั้นผ่อนคลาย โดยเฉพาะบางคนทุกข์มาก แต่อายที่จะให้คนอื่นช่วยและไม่กล้าร้องขอ

คนที่ทุกข์ใจ มีความทุกข์จนทนต่อไปไม่ได้ย่อมรับปัญหานั้นไม่ได้ แก้ปัญหาไม่ได้ไม่มีคน

ช่วยเหลือ หรือหาทางหนีก็ไม่ได้ ผู้อยู่ใกล้ชิดควรช่วยเหลือ ดังนี้

1. สร้างสัมพันธ์ภาพด้วยการพูดคุยซักถาม เช่น “ดูหน้าตาไม่ค่อยสบายเป็นอะไรหรือเปล่า” ถาม

ถึงทุกข์สุขในครอบครัวหรือการทำมาหากินเป็นอย่างไร

2. พูดคุยเพื่อหาปัญหา เช่น “ดูท่าทางปัญหาครั้งนี้จะทำให้ไม่สบายใจมากกว่าธรรมดา ถ้าพูดออก

มา นอกจากได้ระบายทุกข์ออกมาบ้างแล้วอาจจะหาทางช่วยกันได้”

3. ถ้าเขาเต็มใจพูดคุย ก็ควร ถามรายละเอียดของปัญหาและผลที่ตามมาจนไม่สบายใจ เช่น

   - เรื่องราวเป็นมาได้อย่างไร
   - ใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง
   - ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกอย่างไร
   - เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนความรู้สึกของตัวเองมากแค่ไหน
   - ที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาอย่างไร หรือมีคนอื่นมาช่วยแก้ไขด้วยหรือไม่

4. พูดคุยเพื่อให้ผู้ทุกข์ใจเข้าใจสาเหตุและการเกิดปัญหานี้ ขึ้นโดยใช้คำถาม เช่น ใครบ้างที่ทำ

ให้เกิดปัญหานี้ขึ้น ทำให้เกิดได้อย่างไรตัวเขามีส่วนด้วยหรือไม่

5. ช่วยกันคิดหาทางออกของปัญหา ตามแนวทางดังต่อไปนี้

- พิจารณาว่ามีปัญหาอะไรบ้างพยายามหาทางออกในการ

แก้ปัญหาหลายทาง เพื่อเป็นทางเลือก

- ชั่งน้ำหนักของแต่ละปัญหา และเรียงลำดับปัญหาตาม

ความรีบด่วน จากด่วนมากไปจนถึงเรื่องที่รอได้หรือเรื่องที่แก้ได้ยากไปจนถึงเรื่องแก้ได้ง่าย

- เริ่มแก้ปัญหาจากปัญหาที่ง่ายไปหาปัญหาที่ยาก หรือเรื่อง

ที่ด่วนมากไปจนถึงเรื่อง ที่รอได้เรียงลำดับก่อนหลังว่าแต่ละอย่างจะแก้อย่างไร โดยดูว่า

  ๐ มีใครเกี่ยวข้อง
๐ ใครจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง
๐ ต้องไปหาใครก่อน/หลัง หรือเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยตัวเอง
๐ คิดไว้ก่อนว่าจะพูดอย่างไร ทำอย่างไร
๐ เตรียมใจไว้เผื่อไม่เป็นไปตามที่คิดหวังไว้

บางปัญหาสามารถแก้ไขได้โดยตรงทันทีตามที่เราต้องการ แต่บางปัญหาอาจต้องชะลอยืดเวลาออก

ไป เพื่อตั้งหลักหาทางแก้ไขหรือต้องประนีประนอม พบกันครึ่งทาง ถึงแม้ว่าจะแก้ไขปัญหาตามที่ต้องการไม่ได้ทั้งหมด ก็ยังดีกว่าไม่ได้แก้ไขอะไรเลย

ในกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย คงต้องให้ผู้ทุกข์ใจยอมรับความจริง ยอมรับสภาพที่

เกิดขึ้น ผู้ที่สามารถยอมรับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้น คนที่เข้มแข็งกล้าหาญ ในการเผชิญกับสิ่งที่ไม่ดีล้มเหลวในชีวิตแต่ สามารถสู้ชีวิตต่อไปได้เปรียบเสมือนคนที่ล้มแล้วพยายามลุกขึ้นเดินต่อไป ย่อมจะมีโอกาสดีกว่าคนที่ไม่ยอมลุกขึ้น

- ถ้ายังทำใจไม่ได้ หรือในรายที่เคยมีปัญหาทางสุขภาพจิตมาก่อน ควรจะไปพบผู้ที่มีความรู้ที่สามารถ

ให้การช่วยเหลือได้ที่สถานบริการสาธารณสุขต่างๆ ที่ใกล้บ้าน เช่น สถานีอนามัย โรงพยาบาล

- ติดตามเพื่อประคับประคองทางจิตใจและทำให้รู้สึกว่าไม่ถูกทอดทิ้งด้วยการถามถึงความเป็นอยู่

ช่วยแนะนำและร่วมปรับวิธีการในการแก้ปัญหาครั้งต่อ ๆ ไป

ที่มาของข้อมูล : จากคู่มือดูแลตนเอง เรื่อง ทำอย่างไรเมื่อใจเป็นทุกข์ หน้า 19-23 โดย.กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข