สามารถ ดู "บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับ

จาก ลิงค์ ส่วนล่างของหน้าบทความนี้ ค่ะ



หากบทความเหล่านี้ มีประโยชน์ อ่านแล้ว ชอบ อยากให้กำลังใจ เจ้าของบล็อก

สามารถทำได้เพียง กดแบ่งปัน ไปตาม google + หรือ facebook หรือ twiter

ขอบคุณค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทำอย่างไรให้อยู่รอด...หลังเลิกรากับหวานใจ

หลัง จากต้องเลิกรากับสุดเลิฟอย่างขื่นขม ก็ถึงช่วงเวลาที่ต้องเยียวยาหัวใจและหาความสงบให้ตัวเอง ช่วงนี้คือช่วงที่ยากลำบากเพราะแผลยังสดเลือดยังไหลซิบไม่ยอมหยุด

ทำอย่างไรให้อยู่รอด...หลังเลิกรากับหวานใจby ตะละแม่วีนัส


เป็นช่วงเวลาที่เรายังไม่พร้อมออกไปเผชิญโลกและทำหน้าตาชื่นบานว่า เชอะ ช่างมันฉันไม่แคร์ ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลก มาดูกันสิว่าเราจะเอาชีวิตรอดช่วงวิกฤตนี้อย่างไรให้ปลอดภัย

ยาเสพติดและแอลกอฮอล์
ทุก คนรู้ลิมิตของตัวเองในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ช่วงชอกช้ำแบบนี้สติสตังคนเรามักผิดเพี้ยนเสมอ เอาเป็นว่า เมาให้ลืมเธอ แค่เบาะๆ ก็พอ เช่น ดื่มค็อกเทลสัก 1-2 แก้วแค่ 2-3 คืนติดกันก็พอ แต่ถ้าคิดถึงของที่รุนแรงกว่านี้ก็ควรคิดทบทวนดูใหม่ เพราะการเมาสารเสพติดไปอีกเป็นเดือน ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นหรอกค่ะ

  • ยาเสพติด
    อย่าขับรถตอนกำลังเมาเพียบโดยเด็ดขาด หรือแม้แต่ตอนที่เหนื่อยล้าสุดๆ หรือตาฝ้าฟางมองอะไรไม่ถนัด ขอแนะนำให้ไหว้วานคนที่ไม่รู้เห็นเรื่องการเลิกรามาขับรถให้ หรือนั่งแท็กซี่ดีกว่า
    ยาเสพยาที่ไม่รู้แหล่งที่มาแน่ชัด เพราะเราไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิต
    อย่าเสพยาที่ไม่เคยลองมาก่อน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทดลองอะไร
    อย่ากินยาเกินกว่าแพทย์สั่ง เพราะไปๆ มาๆ อาจนำไปสู่การคิดที่จะฆ่าตัวตายได้
    อย่าเสพยาถ้าเคยมีประวัติติดยาเสพติดมาก่อน
    อย่าเสพยาตอนอยู่คนเดียว
  • แอลกอฮอล์
    อย่าขับรถตอนเมาหรือมีเครื่องดื่มอยู่ในมือ
    อย่าดื่มมากกว่าที่เคยยามอยู่คนเดียว อาจเกิดอันตรายได้
    อย่าดื่มนู่นนี่ผสมกันมั่วไปหมด ผลที่ตามมาอาจเละเทะกว่าที่คิด

    ตาม ปกติคนที่ไม่ใช่นักดื่มมักจะหันมาเมาหัวราน้ำตอนอกหักนี่ละ อย่าลืมว่าร่างกายของเราไม่ชินกับของมึนเมา ดีไม่ดีอาจอ้วกแตกเอาง่ายๆ แถมยังเมาค้างปวดหัวแบบสุดๆ และต่อให้เป็นนักดื่มอยู่แล้วก็จะดื่มมากกว่าปกติเพื่อ เมาให้ลืมเธอ แน่นอนว่าวันถัดมาไม่มีใครรู้สึกดีขึ้น มีแต่จะรู้สึกว่าชีวิตแย่ลงกว่าเดิม

    อาหาร
    อกหักชอกช้ำขนาดนี้ ระบบการกินย่อมผิดปกติแน่นอน ถ้าไม่กินเป็นพายุบุแคมก็ต้องหมดความอยากอาหาร รับประทานไม่ลงกันเลยทีเดียว

  • กินไม่ลง
    ตามปกติเป็นคนที่เอนจอยอีทติ้งสุดๆ แต่พอหัวใจมันเจ็บช้ำ ก็เลยกระเดือกอะไรไม่ลงนอกจากเครื่องดื่มนิดหน่อยกับสูบบุหรี่เท่านั้น จริงๆ แล้วถ้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเกิน 24 ชั่วโมงควรกินอะไรบ้าง นิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี อาจเป็นขนมปังหรือแซนวิชอะไรก็ได้ สมองจะได้ปลอดโปร่งไม่เป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน
  • กินแหลก
    ถ้าไม่อยากให้ตัวเองล้มป่วยเพราะกินอะไรไม่ลง ป่วยทางใจแล้วอย่าให้ป่วยทางกาย ก็ปล่อยให้ตัวเองกินอะไรตามใจปากไปซะเลย บางคนพออกหักแล้วก็คว้าช็อกโกแล็ตมากินเป็นโหล เพราะฉะนั้นจงกินอะไรก็ได้ที่ใจอยาก แค่ 2-3 วันคงไม่มีผลอะไรกับน้ำหนักตัวหรอกค่ะ

    น้ำ
    แน่ นอนว่าชอกช้ำขนาดนี้ย่อมเสียน้ำตาไปหลายปี๊บเพราะเอาแต่ร้องไห้เป็นวรรคเป็น เวร หรือไม่ก็เมาหัวราน้ำ และเมาค้างขนาดหนัก ร่างกายต้องการน้ำบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก การขาดน้ำไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่มันทำให้ร่างกายไม่สดชื่นและรู้สึกแย่มากๆ แถมยังส่งผลต่อผิวพรรณและเส้นผมอีกด้วย ดังนั้นควรจิบน้ำไว้เรื่อยๆค่ะ

    บุหรี่

    สำหรับ คนที่ไม่ใช่นักสูบตามปกติ มักจะสูบบุหรี่ช่วง 2-3 วันแรกหลังเลิกราแล้วก็เลิกสูบเมื่อรู้สึกดีขึ้น แต่บางคนไม่เป็นอย่างนั้น ตอนแรกแค่คิดจะสูบเพื่อย้อมใจ ไปๆ มาๆ เลยติดบุหรี่ สูบมาเรื่อยจนเลิกไม่ได้

    ถ้าเพิ่งเลิกบุหรี่ไปหมาดๆ ถือว่าเป็นชัยชนะอย่างหนึ่งของชีวิต อย่าได้หวนกลับมาทำลายตัวเองเพราะผู้ชายคนเดียว

    ถ้า เป็นนักสูบอยู่แล้วก็จงสูบต่อไป นี่ยังไม่ใช่เวลาเลิกบุหรี่ สุบอีกสัก 2-3 คอตตอนคงไม่ทำให้เป็นมะเร็งปอดปุบปับขึ้นมาตอนนี้หรอกค่ะ เอาไว้ค่อยเลิกทีหลัง

    ออกกำลังกาย
    ถ้า เป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ลองผ่อนคลายดูบ้าง หยุดไปฟิตเนสสัก 2-3 วันคงไม่ทำให้ชีวิตแย่หรือหุ่นจะเผละเป็นช้างน้ำแน่ แต่ถ้าไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็ไม่ต้องกระเหี้ยนกระหือไปวิ่ง 10 กม.ไม่ยอมหยุด เอาเป็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่ควรกดดันตัวเองไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม

    สถานที่ปลอดภัย
    จินตนาการ ถึงสถานที่ที่มีความสุขและปลอดภัยสำหรับเรา อาจเป็นบ้านคุณยายที่เราเคยวิ่งเล่นกับลูกพี่ลูกน้องสมัยเด็กๆ อาจเป็นกระท่อมริมทะเลยามพระอาทิตย์ตกดิน อาจเป็นอ่างอาบน้ำแสนสบายที่บ้านของตัวเองก็ได้ ทุกครั้งที่เราเริ่มจิตตกจมดิ่งสู่ความขื่นขมให้จินตนาการว่าตัวเองกำลัง อยู่ในสถานที่อันปลอดภัยและมีความสุขเหล่านี้ ถึงแม้จริงๆ แล้วเรากำลังนั่งอยู่บนรถไฟมุ่งกลับบ้านก็เถอะ และปล่อยให้ตัวเองอยู่ในจินตนาการนั้นจนกระทั่งรู้สึกดีขึ้น

    กิจกรรมอื่นๆ
    นอน บนเตียง ในท่าคุดคู้เหมือนทารกในท้องแม่ บางครั้งเราก็ไม่อยากทำอะไรนอกจากปล่อยให้ตัวเองอยู่อย่างเจ็บช้ำแบบนี้ละ แต่อย่านอนหงิกแบบนี้เกินหนึ่งวัน

    เดินเล่นสัก 5 นาที เราอาจรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมออกจากบ้าน แต่การเดินเล่นแถวบ้านในช่วงสั้นๆ รับอากาศบริสุทธิ์สักนิด อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้างแทนที่จะซุกตัวอยู่บนเก้าอี้นวมเพียงอย่างเดียว

    ดูหนัง เราอาจไร้อารมณ์ที่จะดูหนัง แต่อย่างน้อยความมืดในโรงหนังก็ทำให้ไม่มีใครมองเห็นดวงตาที่บวมช้ำและจมูก แดงเรื่อ ควรเลือกไปดูหนังในช่วงกลางวันเพื่อจะได้ไม่บังเอิญไปจ๊ะเอ๋กับคนรู้จัก หรือจะเช่าหนังมาดูที่บ้านก็ได้ จะได้ร้องไห้เวลาอินกับหนังให้สาแก่ใจไปเลย ถือว่าเป็นการปลอดปล่อยและระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจได้ดีอีกวิธีหนึ่ง

    ดูทีวี นั่งดูไปเลยค่ะ ดูมันทั้งวันก็ได้ รายการดีหรือห่วยแค่ไหนก็ตามสะดวก
    ช่วงนี้ถือเป็นช่วงอันตรายลูกผีลูกคน ควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังอย่าดราม่าจนเกินไป เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองค่ะ.

  •  

    ที่มา  http://lifestyle.th.msn.com/love/relationship/article.aspx?cp-documentid=4270925

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น