สามารถ ดู "บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับ

จาก ลิงค์ ส่วนล่างของหน้าบทความนี้ ค่ะ



หากบทความเหล่านี้ มีประโยชน์ อ่านแล้ว ชอบ อยากให้กำลังใจ เจ้าของบล็อก

สามารถทำได้เพียง กดแบ่งปัน ไปตาม google + หรือ facebook หรือ twiter

ขอบคุณค่ะ

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ร้องไห้ยังไง ......ให้เขารักคุณ มากขึ้น



อาจเป็นเพราะว่าต่อมน้ำตาของเพศหญิงไวต่อความรู้สึกมากกว่าเพศชาย ผู้ชายมักจะไม่ร้องไห้ การร้องไห้ถือเป็นสิ่งที่แสดงความอ่อนแอของเขาออกมา พอผู้หญิงร้องไห้กลับเป็นเรื่องธรรมดา เพราะผู้หญิงร้องไห้มันจะหมายถึง...ความซื้งใจ ความรัก ความไว้ใจ อย่างเวลาเพื่อนเราร้องไห้กับเรื่องเศร้าของเรา เราจะรู้สึกยิ่งไว้ใจเพื่อนคนนั้น เวลาผูหญิงดูหนังรัก ผู้หญิงก็จะน้ำตาไหล เลยดูว่าผู้หญิงคนนี้อ่อนไหว และอ่อนโยนก็เป็นได้


ร้องไห้เรียกความเห็นใจจากเขา
บางครั้งเวลาเราร้องไห้จริงๆ เขากลับหาว่าเราสำออย เรียกร้องความสนใจ บางทีน้ำตาจะไหลอยู่แล้วเลยต้องฝืนกลืนก้อนสะอื้นเฮือกใหญ่เข้าไป แล้วก็มาร้องไห้โฮคนเดียว ลองดูสถานการณ์ต่อไปนี้ แล้วดูวิธีร้องไห้แบบมีศิลปะที่เราเลือกมาจากประสบการณ์จริงของหญิงสาวหลายๆคนที่ลองทำแล้ว...มันเวิร์ค!!!


เดทครั้งแรกในโรงหนัง
สถานการณ์ : คุณกับเขาเข้าโรงหนังด้วยกันครั้งแรก คุณเลือกดูหนังดราม่า ต่อมน้ำตาแตกเรื่องหนึ่ง ระหว่างดูคุณรู้สึกว่า โอ!ทำไมหนังเรื่องนี้มันช่างเศร้าขนาดนี้ น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว
คำถามในหัวคุณ : ฉันจะร้องไห้เลยดีหรือเก็บน้ำตาเอาไว้ เขาจะมองว่าฉันเซนซิทีฟเกินไปมั้ย หรือถ้าร้องไห้แล้วฉันยิ่งดูเป็นผู้หญิงน่าทะนุถนอม
ข้อดี : ในสถานการณ์แบบนี้ บอกได้เลยว่า ถ้าคุณอยากให้น้ำตาไหล ไหลออกมาเลย มันจะทำให้คุณดูเป็นผู้หญิงอ่อนโยน เขาอาจแอบนั่งยิ้มอยู่ข้างๆหรือส่งผ้าเช็ดหน้าให้ หรือเอามือลูบหัวคุณ ถ้าเป็นเดทครั้งแรก จะยิ่งทำให้คุณทั้งสองสนิทกันเร็วขึ้น ถ้าคุณเพิ่งทะเลาะกันมา อาจถือโอกาสช่วงนี้ระบายความเจ็บช้ำออกไปกับหนังเลย เขาจะรู้สึกอ่อนลงและอยากกอดคุณมากขึ้น
Do ร้องไห้เฉพาะตอนจุดสำคัญของหนังจริงๆ ตอนที่น้ำตาจะไหล เอื้อมมือไปบีบมือเขาเบาๆหันมามองเขา แล้วถ้าเขามองตอบ ยิ้มเล็กๆให้เขา รอยยิ้มกับน้ำตาปริ่มๆของคุณนั่นล่ะทำให้คุณดูเป็นผู้หญิงน่ารัก อ่อนหวานขึ้นอีกเพียบ
Don't ร้องไห้เอาเป็นเอาตาย พร้อมเสียงสั่งขี้มูกฮึดฮัด พร้อมเอาหน้าทั้งน้ำตาของคุณไปป้ายกับเสื้อเขา หรือร้องไห้สะอื้นเล็กๆเป็นระยะๆไปทั้งเรื่อง อันนี้จะเกิดเสียงที่น่ารำคาญมากกว่าน่าเห็นใจ


ถูกทำร้ายจิตใจต่อหน้าเพื่อนเขา
สถานการณ์ : คุณไปเที่ยวกับเขาและกลุ่มเพื่อนของเขา รหว่างคุยกันอย่างออกรส คุณไม่ได้มีเจตนาเลยซักนิดที่เถียงสิ่งที่เขาพูดต่อหน้าเพื่อนเขา คุยเรื่องนั้นจบคุณก็ไม่ได้คิดอะไร คุณคุยเรื่องอื่นต่อไป แต่คุยอยู่ดีๆเขากลับหันมาบอกคุณว่าไม่ชอบที่คุณเถียงเขาเมื่อกี้ คุณพูดจารุนแรงมาก ลดความรุนแรงลงหน่อยได้มั้ย แล้วเขาก็บอกอีกว่าคุณมีจุดยืนของตัวเองเกินไป ยอมบ้างก็ได้ (ขอย้ำว่าเขาพูดกับคุณแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนเขา)
คำถามในหัวคุณ : เขาพูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง คุณรู้สึกเจ็บจี๊ดมันเหมือนมีอะไรกระทบจิตใจอย่างจัง น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว แต่ตอ่หน้าเพื่อนสนิทเขาขนาดนี้ จะร้องไห้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย หรือฝืนยิ้มต่อไปดี
ข้อดี : บอกได้เลยว่าจุดอ่อนของผู้ชายอย่างหนึ่งคือ เขาทนไม่ได้เด็ดขาด ถ้าคุณทำอะไรให้เขารู้สึกอายต่อหน้าเพื่อนเขา เขากลัวเพื่อนๆจะมองว่าเขาไม่เจ๋งจริง การที่คุณร้องไห้น่ะ ไม่มีข้อดีเลย ยิ่งถ้าเขาสามารถหาเรื่องคุณได้ต่อหน้าเพื่อนแบบนี้แล้ว แปลว่าเขาคงอยากโชว์อะไรเพื่อนเขาแน่ ถ้าคุณร้องไห้ล่ะก็ ได้ยิ่งเสียความรู้สึกกันไปใหญ่
Do ยิ้ม แล้วกลืนก้อนน้ำตาลงไปให้ได้ หายใจช้าๆมองอะไรรอบตัวอื่นๆ ทำใจลอย คิดถึงเรื่องอื่นเข้าไว้ หรือยกหูโทรศัพท์ส่งข้อความหาเพื่อนสาว หรือหันไปคุยเรื่องอื่นกับเพื่อนเขาแทน รอจังหวะดีๆ ถ้าคุณยังรุ้สึกแย่ ก็สะกิดเขาว่าไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อย
Do ลุกออกไปเข้าห้องน้ำ แล้วจะร้องก็ร้องเลย ตอนออกมาแต่งหน้าแต่งตาให้สวยเหมือนเดิมด้วยล่ะ
Do บอกเขาว่าที่เขาพูดแบบนั้นน่ะ คุณเสียใจนะ และคุณไม่ได้ตั้งใจจะเถียงอะไรเขาเลย ถึงตอนนี้ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้อง หรือถ้าจะให้ดีจริงๆ รอให้คุณทั้งสองแยกตัวจากกลุ่มเพื่อนมาแล้วก่อนร้องไห้กับเขา ควรบอกเขาด้วยว่า คืนนี้คุณสนุก และขอบคุณที่เขาพามา
Don't ร้องไห้ฟูมฟายกลางโต๊ะ แล้วหันไปนินทาเขากับเพื่อนเขาต่อหน้า หรือเขามาปลอบยังไงคุณก็ร้องต่อไม่หยุด และต่อว่าเขาต่อหน้าเพื่อน
Don't หยิบโทรศัพท์มาโทร.ไปเม้าท์กับเพื่อนสาวต่อหน้าเขาอย่างนั้นพร้อมน้ำตาไหลพราก
Don't เดินหนีไปร้องไห้คนเดียวในที่เขาเห็นคุณนั่งร้องไห้อยู่
Don't ร้องไห้ทันที ไม่สนใจใครทั้งนั้น แล้วถามเขาตรงนั้นว่า เธอว่าฉันแบบนี้ได้ยังไง ทำไมเธอใจร้ายอย่างนี้


เมื่อเขาเจอเรื่องแย่
สถานการณ์ : เขากำลังเจอเรื่องแย่ๆในชีวิต ทั้งสูญเสียคนรักในครอบครัวไป หรือหมาที่เขารักตาย งานเขาก็ไม่เวิร์ค เขาปรับทุกข์กับคุณ แล้วเขาก็ร้องไห้ออกมาให้คุณเห็น คุณก็รู้สึกเสียใจไปกับเขาด้วย แต่ไม่ได้รู้สึกถึงขั้นน้ำตาไหลได้
คำถามในหัวคุณ : ก็รู้นะว่าเขากำลังแย่ ฉันเองก็รู้สึกเศร้าไปด้วยเขาร้องไห้ขนาดนี้ ฉันควรร้องไห้ไปกับเขาดีมั้ย ถึงฉันจะไม่รู้สึกน้ำตาไหลเลยก็ตาม เพราะฉันร้องไห้มันอาจทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบ้างก็ได้รึเปล่า?
ข้อดี : ถ้าคุณร้องไห้ไปกับเขา เขาจะรู้สึกว่าคุณเข้าใจเขา และมันเหมือนได้แบ่งความทุกข์ของเขาออกไปที่คุณด้วย เขาจะรู้สึกเหมือนคุณเป็นเพื่อนยามยาก
Do เข้าใจว่ามันยากถ้าจะต้องบีบน้ำตาในขณะที่น้ำตามันไม่ไหล ถ้าทำไม่ได้จริงๆดึงเขาเข้ามากอดแล้วลูบหัวเขาเบาๆ อยู่กับเขาตรงนั้น จนเขารู้สึกดีที่สุด บอกเขาว่าคุณไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
Do ถ้าน้ำตาคุณไหลออกมานิดนึงลองสบตาเขาดู มองตาเขาด้วยความเข้าใจ เขาจะรู้สึกดีขึ้นได้
Don't คนกำลังเศร้าสิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือเพื่อนคนหนึ่งที่เขาระบายทุกข์ได้ แต่เขาคงไม่ต้องการแม่อีกคน ก็ไม่ถึงกับต้องนั่งชี้แจงว่าเขาควรทำหรือไม่ควรทำอะไรบ้างหรอก
Don't อย่าเสแสร้งถึงขั้นต้องร้องไห้ขนาดหนัก จนเขาหันมามองหน้าคุณ ว่าคุณเป็นอะไร เขาน่ะคนเศร้าไม่ใช่หรือ


คำเตือน
สาวไหนที่เพิ่งผิดหวังจากความรักจากการถูกทิ้ง จะเพราะเขาของคุณไปมีคนอื่น หรือรักกันอยู่ดีๆ เขาเบื่อคุณแล้วก็ตาม วิธีร้องไห้ต่อหน้าเขาเพื่อเรียกร้องความเห็นใจใช้ไม่ได้ผลแน่นอน เมื่อเขาตัดสินใจทำร้ายคุณได้ขนาดนั้น น้ำตาของคุณจะไม่มีความหมายอะไรเลย อย่าคิดเชียวว่าฉันจะต้องนัดเจอกับเขาปรับความเข้าใจแล้วร้องไห้ให้เขาเห็น ให้เขารุ้สึกว่าคุณน่ะรักเขาเหลือเกิน ไม่เวิร์คแน่ เขาอาจยิ่งรำคาญและพูดอะไรให้คุณเจ็บใจได้อีก ขอแนะนำว่า ให้ร้องไห้คนเดียว ร้องกับเพื่อน กับแม่ กับน้องสาว ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เขา ร้องออกมาเถอะ ไม่ต้องเก็บไว้ น้ำตาจะใช้ได้ดีเฉพาะคนรักกันเท่านั้น!!!

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทำอย่างไรให้ผู้ชายยอมเปิดใจ

 

 

การไม่ยอมพูดจาเปิดอกต่อกันเป็นปัญหาใหญ่ในความสัมพันธ์

ทำอย่างไรให้ผู้ชายยอมเปิดใจ

โดย ตะละแม่วีนัส

ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยเดียวที่ทำให้คู่รักอยู่ด้วยกันยืนยาวเกิน 4 ปีคือ การแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน ยิ่งแบ่งปันความรู้สึกให้กันและกันมากเท่าไร ก็ยิ่งครองรักกันเนิ่นนานเกิน 4 ปีมากเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีผลการสำรวจระบุว่า เหตุผลใหญ่ที่ทำให้ชีวิตแต่งงานล้มเหลวก็คือ การที่สามีไร้ความสามารถในการแสดงความรู้สึก

ผู้ชายเป็นเพศที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก และยิ่งให้พูดจาอธิบายถึงความในใจละก็...ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้ความสัมพันธ์อยู่ยืนยาวต่อไปผู้หญิงจึงควรกระตุ้นให้ผู้ชายยอมเปิดใจด้วยการ

ให้เขารู้ว่าเราให้ความสำคัญกับการพูดคุยกัน
บอกเขาไปตรงๆเลยว่า เรารู้ว่าเขาอึดอัดที่จะพูดถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ แต่ถ้าลองพยายามดูมันก็จะมีความหมายกับเรามาก แล้วอธิบายเหตุผลด้วย หรือไม่ก็หาหนังสือที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์มาให้เขาอ่าน เน้นเรื่องการสื่อสารกันระหว่างคนรัก

ให้รางวัลถึงแม้เขายอมเปิดปากแค่นิดหน่อย
ถ้าเขาพูดว่า เจ้านายของผมเป็นคนเฮงซวยมาก ยังไม่ถือว่าเป็นการเปิดใจ แต่ถ้าวันถัดมาเขาบอกว่า ไม่รู้สิ บางครั้งผมรู้สึกว่าเจ้านายไม่แฮปปี้กับผลงานของผมเลย นี่ละถือว่าเปิดใจแล้ว ดังนั้นควรแสดงให้เขารู้ว่าเราปลาบปลื้มยินดีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าให้กระโดดกอดคอเขาแล้วร้องกรี๊ดๆว่า ที่รักจ๋า! ในที่สุดคุณก็ยอมเปิดใจกับฉันแล้ว (เพราะถ้าโดนแบบนี้เขาจะปิดปากเงียบไปตลอดกาล) เทคนิคคือรับรู้สิ่งที่เขาพูดมาเป็นข้อมูลแต่อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต นั่นคือ หนึ่ง-ให้เขารู้ว่าการที่เปิดเผยความกลัวให้เรารับรู้ไม่ได้ทำให้เขาดูด้อยลงในสายตาเรา สอง-นี่คือเรื่องปกติ สาม-การเปิดใจกับเราเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ดังนั้นสิ่งที่ควรพูดคือ เราคิดว่าใครๆก็ต้องกังวลเรื่องแบบนี้บ้างเหมือนกัน และอะไรทำให้เขาคิดแบบนั้น หลังจากนั้นปล่อยให้เขาระบายออกมา พอจบแล้วเราก็ปิดท้ายว่า เราดีใจที่เขาบอกเรื่องนี้ให้เรารู้ ทำให้เรารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร

ยิ่งผู้หญิงเปิดเผยมากเท่าไร เขาก็ยิ่งเปิดใจมากเท่านั้น
ถ้าเราสบายๆกับการพูดถึงเรื่องที่น่าอาย หรืออะไรที่ทำให้เราดูงี่เง่านิดๆ เขาก็จะทำตามบ้าง

ถามเขาไปเลย
ถ้าคิดว่าเขากำลังกลุ้มกังวลกับเรื่องบางเรื่อง ก็ถามเขาไปเลยตรงๆ แล้วตั้งอกตั้งใจฟังคำตอบของเขาให้ดี หลังจากนั้นลองถามนำเขาด้วย เช่น เขารู้สึกอย่างไรในตอนนั้น โกรธ? สับสน? ผิดหวัง? ใช่ค่ะ นี่คือการเอาคำพูดมายัดใส่ปากเขา แต่มันก็คือการสอนให้ผู้ชายรู้จักพูดถึงความรู้สึกข้างในออกมา

อย่าเหมาว่าอาการเงียบคือการไม่ใส่ใจ
นี่คือความแตกต่างหลักๆระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ผู้หญิงจะคิดออกมาดังๆ ในขณะที่ผู้ชายจะคิดอยู่ในหัวสมอง วันนี้ผู้ชายอาจพูดถึงปัญหาของตัวเองว่า เจ้านายจู้จี้น่ารำคาญจริงๆ หลังจากนั้นพอเวลาผ่านไปสักระยะเขาจะบอกทางออกของปัญหาเลย เช่น ตัดสินใจส่งใบสมัครงานกับบริษัทอื่นแล้ว ช่วงระหว่างกลางของปัญหาและทางออกนั้น เขาคิดทบทวนด้วยตัวเองเงียบๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวลาขอคำแนะนำอะไรจากผู้ชาย เขาจะบอกว่าขอคิดดูก่อน เขาไม่ได้บอกปัดแต่นี่คือวิธีที่ผู้ชายจัดการกับปัญหา ในทางกลับกันผู้หญิงจะคิดออกมาดังๆ ซึ่งจริงๆแล้วผู้หญิงชื่นชอบการเปิดเผยทุกความคิดที่อยู่ในหัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงจะพูดว่า เดี๋ยวฉันจะไปธนาคารก่อนแล้วค่อยไปซื้อของทีหลัง อุ้ย ไม่สิ ไปซื้อของก่อนแล้วไปธนาคารทีหลัง เพราะมันอยู่บนทางผ่าน อ้าวตายจริง เกือบลืมแน่ะ ฉันต้องแวะเอางานไปทิ้งให้ลูกค้า วันนี้วันเสาร์แท้ๆยังต้องทำงานอีกหรือนี่ เอ๊ะ แล้วกางเกงสีดำอยู่ที่ไหน...นี่ไงเจอแล้ว ที่รักจ๋าวันนี้อยากทานอะไรเป็นมื้อเย็น ฉันจะได้แวะซื้อเข้ามา ว่าไงจ้ะที่รัก ฉันรู้สึกเหมือนพูดอยู่คนเดียวเลยนะเนี่ย (ใช่เลย...พูดคนเดียวจริงๆ) และคำตอบที่ได้อาจจะเป็น เดี๋ยวอีกชั่วโมงจะโทรหา ซึ่งหมายความว่าเขาหวังว่าถึงตอนนั้นเธอคงเข้าประเด็นสำคัญแล้ว

เขานอกใจ...ควรให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งไหม

 

ลองหาที่เงียบๆเป็นส่วนตัวสัก 2-3 ชั่วโมง นั่งคิดแล้วถามตัวเองด้วยคำถามต่อไปนี้

เขานอกใจ...ควรให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งไหม

โดย      ตะละแม่วีนัส

คู่รักบางคู่สามารถรอดพ้นวิกฤตการนอกใจไปได้ แต่สำหรับบางคู่ฝ่ายหนึ่งคิดอย่างจริงใจว่าความสัมพันธ์นี้มีค่าเกินกว่าที่จะยอมเสียไป ในขณะที่คนกระทำผิดเสแสร้งแกล้งทำทุกวิถีทางเพื่อให้กลับมารักกันอีกครั้ง

ถ้าเขานอกใจเรา สิ่งที่ควรทำคือ พิจารณาตรึกตรองให้ลึกซึ้งว่ามันคุ้มไหมที่จะอยู่กับคนแบบนี้ บ่อยครั้งที่คนไม่ซื่อสัตย์ไม่สมควรได้รับการอภัย

เขาเคยมีประวัตินอกใจคนอื่นมาก่อนหรือเปล่า
ถ้าเขาเคยมีประวัตินอกใจมาก่อนแล้วมานอกใจเราละก็ ตัดหางปล่อยวัดไปได้เลย ถึงให้โอกาสแก้ตัวอีกครั้งก็ต้องทำผิดเหมือนเดิม เรียกว่าเป็นนิสัยเลยก็ว่าได้ รับรองว่าต้องนอกใจซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าเราจะบอกว่า  ไปตายซะ! และเขารู้แจ้งเห็นจริงแล้วว่าคราวนี้คงหนีความผิดไม่พ้น

ทำไมถึงนอกใจ
ข้อนี้ชี้เป็นชี้ตายเลยทีเดียว เป็นตัววัดที่ดีที่สุดว่าเขาสมควรได้รับโอกาสแก้ตัวเป็นครั้งที่สองหรือไม่ ถ้าแค่พลั้งเผลอแค่ครั้งเดียวก็ดูเป็นเหตุผลที่สมควรยกโทษให้ได้ง่ายกว่าการนอกใจซ้ำแล้วซ้ำอีกหรือมีมือที่สามเป็นตัวเป็นตนมานานแล้ว ถ้าความสัมพันธ์ของเราและเขาเพิ่งเริ่มต้นและยังไม่มีการเอ่ยเอื้อนให้คำมั่นใดๆต่อกัน ตัวอย่างเช่น คนรักเก่าโผล่มาที่บ้าน ทั้งคู่ดื่มกันจนเมาแล้วขึ้นเตียงด้วยกัน บางคนอาจตัดสินว่า เรื่องแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เพราะยังเสียดายความรักความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่อยากโยนทิ้งไปอย่างไร้ค่า เหตุผลนี้ยังพอฟังขึ้นถ้าสองคนนั้นสำนึกผิด และไม่มีหลักฐานว่ามีการกระทำผิดซ้ำสองหรือมีแนวโน้มว่าจะแอบจุ๊กกรู๊กันอีกในอนาคต แต่ถ้าสัมพันธ์ลับนี้เกิดขึ้นตอนที่เราและเขาคบกันในขั้นซีเรียสแล้ว คงต้องคิดทบทวนใหม่ว่าควรยกโทษให้หรือไม่

ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ลองคิดว่าถ้าเราเป็นเขาละ ลองเอาความรู้สึกของเขามาใส่ไว้ในใจ และเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้น เราจะทำอย่างไรถ้าเป็นเขา เราจะเข้าใจเขาบ้างไหม เรามองออกไหมว่าเขาจะทำผิดแบบนี้อีกในอนาคต เขามีปฏิกิริยาอย่างไร เรามีปฏิกิริยาอย่างไร นิสัยนอกใจแบบนี้มองออกได้ทันทีหรือเขาเป็นพวกหงิมๆซ่อนเล็บ หลังจากเกิดเรื่องแล้วเราสามารถไว้ใจเขาได้อีกหรือไม่ เราจะรู้สึกไม่มั่นคงหรือเปล่า จะมีอะไรมารับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก และที่สำคัญอย่าลืมถามตัวเองว่า ทำไมถึงอยากอยู่กับคนแบบนี้

ความสัมพันธ์ของเรากับเขาอยู่ในสภาพใดตอนที่เกิดเรื่อง
ถ้าเรารู้สึกว่าเขาไม่มีความสุข ความสัมพันธ์ค่อนข้างแย่ และใจเกิดสงสัยเขาขึ้นมา ก็มีแนวโน้มว่าเราจะอภัยให้เขาได้ (แต่ไม่มีวันลืมเรื่องนี้) ในทางกลับกันถ้าเราไม่เห็นสัญญาณสิ่งผิดปกติใดๆเลย แถมเขาก็ดูแฮปปี้และรักใคร่เราดี จนเราคิดว่ากำลังใช้ชีวิตแบบครอบครัวแสนสุข เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาแล้วการจะให้ไว้ใจเหมือนเดิมคงยาก คิดดูสิคะ ถ้าคราวนี้ไม่มีอะไรให้ระแคะระคายเลย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรถ้ามีครั้งต่อไปเกิดขึ้นอีก เขาเป็นคนประเภทไหนกันที่สามารถไปนอนกับคนอื่นลับหลังและยังกลบเกลื่อนได้เนียนจนเราไม่สะกิดใจเลย อีกมุมมองหนึ่งถ้าความสัมพันธ์ลุ่มๆดอนๆสามวันดีสี่วันไข้ บางครั้งการนอกใจอาจช่วยให้เรารู้ถึงปัญหาในความสัมพันธ์ และช่วยกันแก้ไขได้ในที่สุด

เขาสำนึกผิดหรือเปล่า
ต้องดูให้แน่ใจว่าเขาสำนึกผิดจริงๆ ไอ้ประเภททำเป็นเศร้าเสียใจน้ำตาซึมต่อหน้าเรา แล้วพอลับหลังก็ทำอีก แบบนี้ตัดหางปล่อยวัดไปเถอะค่ะ เราจะได้ไม่ต้องมานั่งน้ำตาตกซ้ำแล้วซ้ำอีก...เจ็บไปเจ็บมาแบบนี้จะทนไปทำไมคะ.

 

ที่มา ….  MSN

วิธีทำใจหลังถูกทิ้ง


สิ่งใดใดในโลกล้วนอนิจจัง มีวันรัก อาจต้องมี วันเลิก ชีวิตมีหลากรสชาติ สุข-เศร้า-เหงา-รัก เพราะฉะนั้น เรื่องอกหักเป็นเรื่องธรรมดา ใครไม่เคยนับว่าแปลกเอาการ อาจ เป็นเพราะไม่เคย โดนรัก หรือ ได้รักใคร


เรื่องความสุขของความรักไม่ต้องพูดถึง มันเป็นเรื่องดี ๆ รูปแบบเฉพาะของใครของมัน ที่มีแต่สีสันอ่อนหวาน เผ็ดร้อน หรือแสบสัน เฉพาะคู่ ทว่า อีกด้านของความรัก กลับมีแต่สีขาวดำหม่นปนเทา ๆ นั่นเป็นเพราะฤทธาของความรักที่กระชากเอาหัวใจไปตั้งแต่วันแรกที่รักเริ่ม กระทั่งวันสุดท้ายที่รักลา ก็ไม่เห็นเอาหัวใจคุณกลับมาไว้ที่เดิม


หัวใจคุณหายไปไหน วิญญาณของคุณหายไปกับหัวใจไปด้วยหรือเปล่า กี่วัน กี่เดือน กี่ปีแล้ว ที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีหัวใจและวิญญาณ ตามมันกลับมาอยู่ที่เดิมเถอะ


วิธีแรก : พุ่งเป้าไปที่อาชีพการงาน
ละเลยมันมาเนิ่นนานเพราะห้วงความรักพาไปใช่ไหม ถึงเวลาแล้ว ที่คุณค่าของชีวิตคุณจะกลับมา ยามอกหัก คุณจะพบว่าเวลาในชีวิตนั้นช่างล้นเหลือ จนต้องนั่งจมจ่อม ซึมเศร้า เอาแต่นึกถึงความหลังครั้งเก่า ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีคุณค่า ด้วยการทำแต่งาน ๆ ๆ นั่งกำหนดเป้าหมายในชีวิตด้านการงานแล้วมุ่งมั่นกับมันไป ทดแทนความรักที่หล่นหาย ใครจะว่าประชดก็ต้องยอมรับ การทำงานจะทำให้คุณไม่มีเวลาว่าง และจะเพิ่มความสำคัญของตัวคุณแบบออโตเมติก ต่อโลกใบนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ใครจะรู้ว่าผลแห่งการประชดจะทำให้คุณมีพลังสร้างสรรค์ได้ถึงเพียงนี้


วิธีที่ 2 : คิดถึงแต่เรื่องแย่ ๆ ของอดีตคนรัก
ฟังดูมองโลกในแง่ร้ายเหลือเกิน ก็คงเป็นอย่างนั้นจริง ต้องยอมรับกันไป ถ้าเราต้องหยิบฉวยช่วงเวลาแย่ ๆ มาช่วยตัวเองให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเคยมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในตอนนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกในการเลิกราครั้งนี้ เรื่องดี ๆ มีไว้นึกถึง ตอนที่คุณเข้มแข็งกว่านี้แล้ว ส่วนเรื่องแย่ ๆ นั้นมีประโยชน์ไว้ให้คุณคิดเข้าข้างตัวเองว่าโชคดีเหลือทนแล้ว ที่คุณจะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่หัวใจต้องบอบช้ำแบบนั้นอีก


วิธีที่ 3 : เสแสร้งเพื่อมีแรง....ก้าวต่อไป
ทำเป็นเนียน ๆ ว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณมากมาย แม้หัวใจจะร้าวราน มนุษย์ที่เข้มแข็งจะก้าวผ่านช่วงเวลาเลวร้ายแบบนี้ไปได้ด้วยทัศนคติที่ดีต่อชีวิต ยกหูหาเพื่อนสนิทอารมณ์ดีสักคน แล้วชวนกันออกไปทำอะไรมันส์ ๆ ด้วยกัน ดำน้ำ ดูปลา หรือเมาหัวราน้ำแบบเฮฮาอย่างไม่เคยเป็น เสียงหัวเราะอาจกลบเกลื่อนเสียงร้องไห้ในใจได้บ้าง ออกไปดูโลกดูผู้คน บำบัดใจ จะทำให้คุณได้มองเห็นเรื่องใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ สิ่งใหม่ ๆ ที่เวียนว่ายอยู่รอบ ๆ ตัวเรา แต่ไม่เคยได้สังเกต ใส่ใจโลกรอบข้างดีกว่าหมกมุ่นแต่กับชีวิตของตัวเอง


วิธีที่ 4 : ปิดปากเงียบ
บ่อยครั้งที่การพูดเป็นเหมือนการระบาย แต่ถ้าอยากลืมได้เร็ว ๆ ให้เลือกพูดเพียงครั้งเดียวกับเพื่อนที่คุณไว้ใจได้บนโลกใบนี้ ในไดอารี่อาจมีเพียงบทเดียว ที่บรรจุเรื่องราวของวันสุดท้ายของความรัก การพูดบ่อยครั้งเป็นเหมือนการย้ำคิด ย้ำความรู้สึก และจะมีแต่เรื่องราวอดีตคนรัก วนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา ถ้าคนเราห้าม ความรู้สึกกันได้คงจะดี คุณอาจทำสัญลักษณ์ไว้กระตุกใจยามที่คุณนึกถึงเขาขึ้นมาอีก เพื่อนก็ช่วยได้มากยามนี้ พยายามอย่าพูดสะกิดใจ แม้เพียงเล็กน้อย ช่วงนี้อาจอึดอัดกันหน่อยแต่ต้อง อดทน...แล้วผ่านมันไปให้ได้


วิธีที่ 5 : เปลี่ยนความ เศร้าเป็นพลัง
ก็เหมือนกับการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสนั่นแหละ หากความเศร้ามันมีพลังล้นเหลือ แปรรูปพลัง งานนั้น มาออกกำลัง เล่นกับสุนัข ซ่อมแอร์ ขัดห้องน้ำ ท่าจะเวิร์ก การออกกำลังกายจะทำปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย ที่ร้ายจะกลายเป็นดี และคุณจะพบว่า ข้อดีของการ อกหักคือพลังงานที่ล้นเหลือ และทำให้คุณดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนตอนมีรักเสียอีกแน่ะ แถมดีกับ (สุขภาพ) หัวใจคุณด้วยนะ


วิธีที่ 6 : ให้ธรรมชาติและเวลารักษาคุณ
ฟังดูเหมือนโฆษณาชวนเชื่อ แต่ 2 อย่างนี้จะช่วยคุณได้จริง ๆ แทบไม่ต้องเสียสตางค์ อย่างแรกคือธรรมชาติ ถ้าอยากพบก็ต้องออกไปเดินตามหา การเดินทางจะทำให้คุณลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ชั่วขณะ แล้วได้พบเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตที่ต้องแก้เฉพาะหน้าแทน ความสวยงามของสายลม ต้นไม้ และแสงแดดสวย ๆ ไม่เคยทำร้ายหัวใจใคร เป็นเหตุผลว่า ทำไม คนอกหักต้องไปทะเล ก็เพื่อปลดปล่อยใจไปกับผืนทะเลอันกว้างใหญ่นั่นเอง ต่อมาคือเวลา สรรพคุณของมันคือ ช่วยเยียวยา โดยที่ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน ปล่อยให้เวลาเดินหน้าต่อไป ให้หัวใจคุณหมุนติ้วตามเข็มนาฬิกา อย่าริอาจเดินทวนเข็ม เราฝืนกลไกมันไม่ได้ นอกจากจะเจ็บปวดแล้ว นาฬิกาจะเสียเอาอีกด้วย


วิธีที่ 7 : ลบมันทิ้งไป
เป็นประโยคที่พูดกันง่าย ๆ แต่ทำยากเหลือเกิน สมมุติให้ตัวเองเป็นคอมพิวเตอร์ ก็เพียงแค่ ดีแฟรกเม้นท์ หรือลบโปรแกรมเก่าทิ้งไป ลงใหม่หรือเลิกใช้ซะ หรือสมมุติว่าคุณเป็นตัวอักษรที่ถูกเขียนด้วยดินสอ เรื่องราวทั้งหมดที่คุณและเขาเคยบรรจงแต่งขึ้นด้วยกันมา ก็เป็นแค่โครงเรื่องลายบาง ๆ ที่ลบทิ้งได้ง่าย ๆ เพียงตวัดยางลบลงกระดาษแผ่นนั้น ไม่จำเป็นหรอกที่จะต้องทิ้งข้าวของหรืออะไรที่เคยมีความทรงจำร่วมกัน ทุกอย่างมันอยู่ที่นี่...ที่หัวใจ ใครจะสั่งคุณได้ ถ้าคุณไม่สั่งใจตัวเอง


คนไม่ใช่ดอกบัว ที่จะต้องตัดอย่าให้เหลือ ใย แต่ต้องยิ่งกว่านั้นคือถอนรากขุดโคนออกมาทำลายให้หมด ในวันที่คุณตื่นมาแล้วพบว่าไม่เหลือใครแล้ว ชีวิตอาจเคว้งคว้าง น่าเวียนหัว เพราะความว่างเปล่าที่มันมากเกินไป ทำให้คุณคลื่นไส้อยากอาเจียน ก็อาเจียนมันออกมาให้หมดลำไส้ เป็นการดีท็อกซ์การอกหักให้คุณสะอาดขึ้น ส่วนที่มันแน่นซะจนทำอย่างไรก็ไม่ออก ปล่อยให้เวลาทำให้มันตกตะกอน ใช้พลังความสามารถทั้งหมดที่คุณมีเลือกลืม และเลือกจำ แล้วใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปอย่างมีความหวังและคุณค่า แม้คุณจะเหนื่อยมากจนไม่มีพลังจะหวังเรื่องความรักอีกต่อไป แต่ชีวิตก็ยังมีอีกหลายด้าน ที่คุณยังไม่เคยได้ตั้งความหวังกับมันไม่ใช่หรือ

แล้วตื่นขึ้นมาในโลกใบเก่า กับหัวใจดวงเดิม ที่เดินทางกลับมาหาคุณสักที

ที่มา  สนุกดอทคอม

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อยู่คนเดียวให้ได้

ความรักที่คุณเพาะบ่มมานานจนได้ที่
จนคุณเองคิดว่านี่แหละคือ...รักแท้
บางทีไม่อาจเป็นอย่างที่คุณคิด
......................
คุณจำความรู้สึกของกอดแรกได้ไหม
มันอบอุ่นจนคุณเองก็บอกไม่ถูก
มันเป็นกอดแรกเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ร่วมกัน
นั่นหมายความว่าคุณกับเขา...ได้ให้สัญญาร่วมกัน
.......................
คุณเคยคิดไหมว่าวันหนึ่ง สัญญาที่ให้ไว้ซึ่งกัน
ต้องกลับกลายเป็นโมฆะ
เพียงเพราะว่าใครคนหนึ่งผิดกติกา
โดยยกเหตุผลไม่ดีต่างๆนานา มาต่อว่าคุณ
คุณไม่ต้องแปลกใจ
เพราะนั่นคือกลไกของธรรมชาติ
ที่ถูกเขาสร้างขึ้นมา...เพื่อที่จะบอกลาคุณ
........................
คุณอาจโอบกอดเขาไว้
และใช้สายตาคู่นั้นเว้าวอน
มันเป็นสายตาอบอุ่นคู่เดิมเมื่อแรกพบ
ที่คุณเคยมองเขาและเขาก็มองตอบคุณ
ด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกัน
หากวันนี้สายตาเย็นชาคู่นั้นของเขา
ไม่อาจแม้แต่จะเหลือบมองสายตาเว้าวอนคู่นี้ของคุณ
.......................
กติกากำหนดเกมส์ได้
แต่กำหนดใจคนไม่ได้
คุณต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น
คุณอาจจะเจ็บตรงก้อนเนื้อที่ในอกซ้าย
แน่นอนไม่มียาชนิดใดรักษาได้
เวลาเท่านั้นที่จะช่วยปฐมพยาบาลคุณ
........................
หากคุณเคยโอบกอดเขาครั้งสุดท้าย...ของการจากลา
คุณจำความรู้สึกของกอดครั้งนั้นได้ไหม
คุณจะรู้สึกแตกต่างจากกอดแรกโดยสิ้นเชิง
จนคุณเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
มันเป็นกอดสุดท้ายเพื่อที่จะต้องไปจากกัน
นั่นหมายความว่าคุณกับเขาได้ล้มเลิกสัญญาต่อกันแล้ว
....................
คุณอาจกำลังเคว้งคว้าง เจ็บปวด...และเปล่าดาย
คุณกำลังต้องการใครสักคน อยู่เคียงข้างคุณทุกเวลา
นั่นเพราะว่าคุณไม่อยากอยู่คนเดียว
เพราะเวลาที่คุณอยู่กับตัวเองเมื่อไหร่
คุณจะพบกับภาพความทรงจำเก่าๆ
ของคุณและเขาที่เคยมีต่อกัน
มันย้อนเข้ามาทักทายทุกครั้งในความนึกคิด
เหมือนหนังม้วนเก่าที่คุณไม่อยากดู...แต่ก็ต้องทนดู
เพราะมันจะฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
บางทีคุณอยากหาหนังเรื่องใหม่มาอัดซ้ำ
แต่คุณก็ทำไม่ได้
บางทีคุณอยากปิดมัน
แต่คุณก็ทำไม่ได้
เพราะหนังเรื่องนี้ดูด้วยหัวใจ...ไม่ใช่ดวงตา
ยิ่งวนเวียนฉายหลายรอบเท่าไหร่
คุณยิ่งเจ็บช้ำมากเท่านั้น
....................
คุณต้องอยู่คนเดียวให้ได้
ในเมื่อครั้งก่อนคุณยังไม่เจอเขา
คุณก็เคยอยู่มาแล้ว
จะอยู่คนเดียวอีกสักครั้งก็ไม่เห็นเป็นไร
คุณยังมีพ่อ มีแม่ พี่น้อง และเพื่อนดีๆอีกหลายคน
ที่คุณรักแล้วเขาก็รักคุณ
เวลาที่คุณรู้สึกเหงา จงนึกถึงพวกเขา
เพราะนั่นคือยาบรรเทาความเจ็บปวดของคุณ
.........................
คุณต้องอยู่คนเดียวให้ได้
เพราะชีวิตคุณ...เป็นของคุณ
อย่าให้ใครบางคนในใจ
ที่เคยทำร้ายคุณ...มาทำลายความเป็นคุณ
จงยิ้มสู้ทั้งๆที่รู้ว่ามันยาก
แต่คุณก็ต้องทำ
ยิ่งคุณเข้มแข็งเร็วเท่าไหร่
แผลที่อยู่ในอกซ้าย...ก็จะหายเร็วเท่านั้น

 

 

 

ที่มา : ผลบุญ ดอทคอม

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปลดปล่อย และ กลับมาเป็นคนเดิมเถอะนะใจ

กำลังใจจาก พี่ชาย ร่วมคลับร่วมชมรมคนหนึ่ง พี่ nongnoom นาวาร่าคลับไทย

… ในยามที่ใจ เราท้อแท้ ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจ เพียงเศษเสี้ยวจากใครก็ตาม เมื่ออ่านแล้ว ก็ต้องร้องไห้ทุกครั้งไป

เมื่อหนทางข้างหน้า มิรู้เลย ว่าจะดี จะร้าย สำหรับเราเพียงใด

ใจเราเท่านั้น ที่ต้องนิ่ง เพื่อ เตรียมตัวรับ สิ่งที่ต้องเป็น  กำลังใจ จึงเป็นส่วนหนึ่ง ที่เราควรมองหา และเปิดรับ ให้มากที่สุด

 

 

ปลดปล่อยละทิ้งความตั้งใจ

ปล่อยวางสูญสิ้นความตั้งใจ

แล้วกลับมายืนที่เดิม

ยืนบนความเป็นตัวตนของตนเอง

อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราคิดผิดและใส่ใจมากไป

สิ่งนั้นคือความฝันที่อยู่ไกล

 

กลับมาแล้ว กลับมาเป็น คนเดิมดีกว่า

เป็นตัวเรา ที่เราเป็น

เพราะเรามันเป็นคน

เกิด มาจากดิน ดินก็คือดิน ไม่สามารถกลายเป็นหินได้

นอกจากเป็นฝุ่นที่หลุดลอยตามสายลม

แต่มันจะกลับมาเป็นดิน อีกครั้ง เมื่อมันเจอสายฝน

เหนื่อยนักก็พักก่อน

แดดอ่อนๆกับสายลม

คงช่วยคนอย่างเรากลับมาใหม่ได้ดั่งเดิม

กลับมายืนที่เดิม

แก้กรรมเรื่องคู่ครอง

ถาม-   อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ srykwn 
สวัสดีค่ะคุณปาล์ม
ดิฉันชื่อ ศรัญญา คาวิน เกิดวันจันทร์ ที่ 30 กค 2522
สงสัยว่าตัวเองมีเนื้อคู่หรือไม่ค่ะ
เพราะพึ่งไปดูดวงมา เขาบอกว่าไม่มีเนื้อคู่
แต่ว่า เดือนก่อนฝันว่าพระเอางูเหลือมมาให้ จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต เวลาคิดว่าอยากเจอเขา ถ้าเป็นเนื้อคู่กันก็ขอให้เจอ ก็มักจะเจอเขาน่ะคะ
เลยไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วดิฉันมีเนื้อคู่รึป่าวค่ะ
ช่วยดูให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ปล. โทรไปแล้วมักจะสายไม่ว่างเลยคะ


ตอบ - วิธีสะเดาะเคราะห์ด้วยตัวเอง จาก ปาล์ม
รู้สึกว่า เราคบใครก็................หนีหายแซ๊บ หรือมีคนมาแย่งชิง หรือว่า จีบสาว หรือชอบหนุ่มคนไหน แห้วตลอด ไม่มีดวงเรื่องความรัก หรือถูกหักอกตลอด อันนี้มีวิธีแก้ครับ


ให้ตั้งใจรักษาศีลข้อสามให้บริสุทธิ์ ถ้าเป็นไปให้ให้ถือศีลแปดและตั้งใจทำกรรมฐาน ตลอดระยะเวลา สักประมาณ 8 วัน


จากนั้น ไปสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ที่ไหนก็ได้ ถ้าเป็นไปได้ พระธาตุดอยตุงนะครับ พระธาตุดอยสุเทพก็ดี พระธาตุจอมกิตติก็ศักดิ์สิทธิ์มาก หรือแบบเร็วๆ ไวๆมากๆ ก็พระธาตุทันใจซึ่งเป็นพระธาตุเจดีย์ที่เขาสร้างเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง ขอพรอะไรจะได้ผลเร็ว หรือ ขอพรที่พระเจ้าทันใจก็ได้ โดยก่อนขอพรให้เตรียมดังนี้


เตรียมเครื่องบูชาพระรัตนตรัย มีข้าวตอก ดอกไม้(บัวฉัตรแดง 1 คู่)

เทียน 1 คู่ ธูป 30 ดอก
ทองคำเปลว ไปปิดพระพุทธรูปสัก 2 องค์ องค์ละกี่แผ่นตามศรัทธา

แต่สององค์ให้เท่ากัน เดี๋ยวได้แฟนแก่กว่าจะยุ่ง

ห้ามดมดอกไม้ก่อนบูชาพระ อันนี้จะมีผลทันตา ได้แฟนแก่

นำไปบูชาพระธาตุฯ

ก่อนไปชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ชำระศีลด้วยให้ครบ


ให้ตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย
เมื่อบูชาแล้วให้ขอพรดังนี้


ขออาราธนาคุณแห่งพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา เทวดาและพรหมทุกๆ พระองค์ที่รักษาพระธาตุฯแห่งนี้ และทั่วสากลจักวาล ท่านผู้ทรงฤทธิ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลกธาตุ บุญบารมีรวมทั้งหมดแห่งพระธาตุ...........และผลบุญทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าได้เคยกระทำมาแล้ว ตั้งแต่ชาติต้นจนถึงกาลปัจจุบันทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ และบารมีทั้ง 30 ทัศ ที่ได้บำเพ็ญมา โปรดมารวมเพื่อช่วยเกื้อหนุนให้ข้าพเจ้าได้พบพานคู่แท้ของข้าพเจ้าโดยเร็วไว ให้เป็นคู่บุญคู่สร้างบารมีเพื่อพระนิพพาน คู่กรรมคู่เวรขอให้หนีไกล หากมีเวรกรรมต่อกันขอให้อโหสิตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน


แล้วในไม่นานเกินรอ เรื่องความรัก ไม่ใช่เรื่องยากต่อไป
แต่เรื่องโรคหลายใจ และใจง่าย อันนี้แก้เอาเอง โรครักแท้แพ้ไกล้ชิด โรคแฟนเขาเราแอบชอบ แก้ให้ให้ไม่ได้นะครับ แก้ที่ใจท่านเองแล้วกัน
และให้แผ่เมตตาให้ตนเอง และทุกๆคนให้มากๆ จะมีประจุดีออกมาจากเรา ไปไหนมาไหนคนจะชอบ

โดย เว็บ ผลบุญ

http://www.ponboon.com/forum/index.php/topic,953.0.html

ความรัก 5 แบบ ตามหลักจิตวิทยา

นักจิตวิทยากล่าวว่า ความรักของคนเรานั้น มีการแสดงความรักออกมา 5 วิธีคือ


1. ความรักแบบต้องการสัมผัส เป็นความรักที่มีการแสดงออกที่สัมพันธุ์กับความรู้สึกด้านร่างกาย ที่ต้องการได้รับสัมผัสที่อบอุ่น ได้อยู่ใกล้ชิดกัน และมีการตอบสนองทางกายต่อกัน และกัน


2. ความรักแบบโรแมนติก เป็นความรักที่มีความรู้สึกหลงไหล ที่รุนแรง รู้สึกว่าอีกฝ่ายดึงดูดใจอย่างมาก


3. ความรักแบบต้องการอยู่ร่วมกัน เป็นความรักที่ต้องการการมีส่วนร่วม แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ ต่อกัน ต้องการใช้เวลาอยู่ร่วมกันและทำตามคำขอร้องของคู่ของตน


4. ความรักแบบต้องการความแน่ใจ เป็นความรักที่ต้องการความมั่นคงทางใจ อยากให้คู่ของตนเข้าใจตนเอง ขณะเดียวกันก็พยายามเอาอกเอาใจอีกฝ่าย เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ


5. ความรักแบบสัญญาใจ เป็นความรักที่มักเกิดหลังจากใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จนเกิดการผูกพันเป็นสัญญาใจ ที่ต่างก็ยอมรับการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน และเป็นความรับผิดชอบที่รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกที่มั่นคงต่อกัน


รูปแบบของการแสดงความรัก 5 วิธีนั้น เป็นรูปแบบที่เสนอโดยคุณหมอผู้อำนวยการ สำนักโครงการสร้างเสริมสุขภาพระดับพื้นที่ของสถาบันส่งเสริมสุขภาพ โดยเรียบเรียง และแปลจากแบบทดสอบภาษาอังกฤษ ซึ่งน่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตคู่อย่างสุขสมและราบรื่น ไว้พิจารณาการแสดงความรักต่อกันให้สอดคล้องต่อความปรารถนาของคู่ชีวิต เพราะชีวิตคู่นั้น ต้องอยู่บนรากฐานของความรัก จึงจะยั่งยืน และสามารถครองชีวิตคู่กันไปจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร เป็นชีวิตคู่ที่เปี่ยมไปด้วย ความรัก และความผูกพันที่มีต่อกัน...

รัก 6 ประเภท

วันนี้มีรูปแบบของความรักมาฝากให้คิดกันค่ะว่า . . . ความรักของคุณในตอนนี้เป็นแบบไหนกันบ้าง


1. ความรักแบบเสน่หา (Eros)
        ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แม้จะไม่มากพอที่จะทำลายตนเอง หรือรู้สึกถูกใจอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็น คล้ายรักแรกพบ ความดึงดูดใจซึ่งกันและกัน การแสดงออกมาทั้งคำพูดและการแสดงความใกล้ชิด อยากเจอกันทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ วาดฝันเกี่ยวกับอีกฝ่ายไว้งดงาม และไม่ได้คาดการณ์ถึงอุปสรรคใดๆ
        คู่รักประเภทนี้พยายามพัฒนาสัมพันธภาพกับคู่ของตนอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดเผย ซื่อสัตย์ และจริงใจ ใส่ใจคู่รักมากเป็นพิเศษ แต่ไม่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือกลัวว่าจะมีคู่แข่ง


2. ความรักแบบไม่ผูกมัด (Ludus)
        ความรักเป็นเกมชนิดหนึ่ง เพื่อความบันเทิงของทั้งสองฝ่าย หลีกเลี่ยงการผูกมัด สามารถผลัดเปลี่ยนคู่ไปได้เรื่อยๆ พยายามที่จะไม่สร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งกับใคร เพื่อรักษาความเป็นอิสระของตน ถึงแม้จะไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด แต่การโกหกและความไม่จริงใจถือว่าเป็นการเล่นตามกติกาที่มี
        ความรักแบบนี้จะไม่หึงหวง หรือแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และอาจเห็นชอบให้คู่ของตนมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์ของตน


3. ความรักแบบมิตรภาพ (Storge)
        ความรักพัฒนามาจากมิตรภาพ เป็นความรู้สึกรักใคร่อันเนื่องมาจากการคบหากันมาเป็นเวลานาน  ไม่ได้มีความ รู้สึกตื่นเต้น เร่าร้อน แต่เน้นการกระทำที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันและมีกิจกรรมร่วมกัน ความรักเป็นสิ่งที่มั่นคง ที่ผนวกเข้าไปกับการดำรงชีวิตตามปกติ


4. ความรักแบบลุ่มหลง (Mania)
        ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะใฝ่หาความรัก แต่เชื่อว่าความรักเป็นความเจ็บปวด ปรารถนาความใกล้ชิดและต้องการความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ต้องการให้คู่รักของตนแสดงความรักมากกว่าปกติ เมื่อใดที่คู่รักไม่ได้แสดงความใส่ใจ หรือไม่แสดงความรักตามที่ปรารถนา อาจจะทำร้ายตนเอง เพื่อเอาชนะความรัก คู่รักประเภทนี้เชื่อว่า เมื่อปราศจากความรักจากอีกฝ่าย ชีวิตก็ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป


5. ความรักแบบมีเหตุผล (Pragma)
        เป็นความรักที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความเป็นจริง ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะแสวงหาคู่ที่เหมาะสมกับตนมากที่สุด เชื่อว่าความสัมพันธ์จะราบรื่นก็ต่อเมื่อคู่รักสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของกันและกัน ได้แสวงหาคนที่มีลักษณะคล้ายตนหรือต่างจากตน แต่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาด การเลือกคู่จะมีลักษณะคล้ายรักเผื่อเลือก ทั้งนี้ก็เพราะคาดหวังสัมพันธภาพที่ยั่งยืน


6. ความรักแบบเสียสละ (Agape)
        เป็นความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว ต้องการเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ มีความห่วงใย และคำนึงถึงความสุขของคู่รักเป็นสำคัญ โดยไม่ใส่ใจกับความต้องการของตนเอง "การให้" เป็นปัจจัยสำคัญของความรักแบบนี้ นักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาพบว่า ในชีวิตจริงคู่สมรสจะมีรูปแบบความรักที่คล้ายคลึงกัน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคู่ที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกับคู่ที่เลิกราไป พบว่าประเภทแรกจะมีความรักแบบเสน่หาสูงกว่า และมีความรักแบบไม่ผูกมัดต่ำกว่าประเภทหลัง รูปแบบของความรักอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และลักษณะของบุคคลที่เรามีความสัมพันธ์ด้วย

กำลังใจสำหรับคนถูกทิ้ง

อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกทิ้ง ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายเลือกที่จะทิ้งขยะชิ้นหนึ่งออกจากใจ


อย่าคิดว่าเราต้องเป็นฝ่ายเหงา ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายเลือกพักร้อนอย่างสบายใจสักระยะ


อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายทรมาน ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายเลือกทำความสุขให้แก่เขา


อย่าคิดว่าเราควรเหนี่ยวรั้งเขา ให้คิดว่าเราควรเป็นฝ่ายให้อิสระเป็นทานแก่คนอื่น


ถ้าเปลี่ยนมโนกรรม (กรรมทางความคิด) จากมืดเป็นสว่างได้ ชีวิตก็จะสว่างเองครับ จิตที่สว่างย่อมอบอุ่นเป็นสุข มีแต่ใครๆวิ่งมาหา มีแต่ความอิ่มเต็มเบิกบาน มีแต่อยากได้อิสระให้ตนเองและใครๆทั้งโลก


จำไว้ว่าทำใจได้ก็เจอคนใหม่ได้ แต่ถ้าทำใจไม่ได้ก็เจอแต่น้ำตากลิ่นเก่าท่าเดียว


ให้ตัวคุณในวันนี้เป็นคนเลือก อย่าให้ตัวคุณที่ตายไปแล้วเมื่อวานเป็นคนเลือก

 

 


http://dungtrin.com/prepare/archive/prepare089.htm (เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม ๗ - ตอนที่ ๑๐)

วาทะความรัก "คู่รักจะเอาใจใส่อีกฝ่าย ส่วนคู่เวรจะเอาแต่ใจตัวเอง"

คู่รักจะเอาใจใส่อีกฝ่าย ส่วนคู่เวรจะเอาแต่ใจตัวเอง

คู่เทียมเจอเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คู่แท้ต้องเจอในจังหวะที่จะรักกันจริงเท่านั้น

ใจจริงไม่ได้เกิดจากความตั้งใจให้จริงเสมอไป ถ้าคู่ยังไม่ใช่ ใจก็คงจริงยาก

รู้สึกว่าใช่ ไม่จำเป็นต้องใช่ โดยเฉพาะถ้าได้ความรู้สึกว่าใช่มาจากการเอาแต่มองด้านดีท่าเดียว

อำนาจที่ทำให้ลุ่มหลงส่งมาจากส่วนสกปรกตรงไหนของร่างกายก็ได้ แต่แรงบันดาลที่ทำให้รักจริงต้องมาจากกลางใจที่ใสพอเท่านั้น

ความลุ่มหลงจะทำให้หน้าตาของเราโง่ลง ส่วนการเห็นตามจริงจะทำให้หน้าตาฉลาดขึ้นเป็นคนละคน

คนเราตาบอดเพราะชอบทึกทักเอาเองว่าเห็นอะไรมา ที่จะตาสว่างได้ก็เพราะยอมทบทวนดีๆว่ามีอะไรให้เห็นบ้าง

การจากกันบางครั้งดีกว่าอยู่กันไปเรื่อยๆ เพราะอาจเป็นทางเดียว ที่ทำให้คุณค้นพบว่าเคยมีความรักอยู่ตรงนั้นขนาดไหน

สิ่งดีๆที่ผ่านไป อาจเปิดทางให้สิ่งดีกว่าที่กำลังจะผ่านเข้ามา

รักที่ตายได้คือรักแต่จะเอา ส่วนรักอมตะคือรักการสละความเห็นแก่ตัว

เราอาจหลอกให้คนอื่นหลงรักได้ด้วยรูปภายนอก แต่ไม่มีทางหลอกให้รักตัวเองได้เลย ตราบเท่าที่รู้อยู่แก่ใจว่าภายในยังน่าเกลียดขนาดไหน

ความรักไม่ได้อยู่ที่หัวใจ แต่อยู่ที่ใจทั้งดวง เพราะหัวใจกว้างไม่ถึงคืบ ขณะที่ความรักแผ่กว้างได้ขนาดครอบโลก

การเริ่มต้นของความรักที่ซับซ้อน อาจเหมือนปกหนังสือที่ดูดีหลอกตา แต่เนื้อหาข้างในไม่ตรงกัน คุณจะงงเมื่อพยายามอ่าน และปวดหัวจนไม่นึกอยากทนอ่านให้ถึงครึ่ง

ถ้าตัวอยู่ห่างแล้วยังรู้สึกอบอุ่นและไว้ใจกัน ก็แปลว่าพวกคุณรักกันด้วยใจ ไม่ใช่หลงติดกันด้วยกาย

คนซื่ออาจพูดคำว่ารักได้ไม่เพราะ แต่ความรักของเขา จะให้ความรู้สึกแสนดีกว่าการได้ยินคำว่ารักอันไพเราะร้อยเท่า

ถ้าดีใจเวลาเห็นใครเป็นสุข คุณอาจไม่จำเป็นต้องรักเขาเสมอไป แต่ถ้าอ้างว่าคุณรักใครแล้วไม่ยินดีกับความสุขของเขา แปลว่าคุณเห็นแก่ตัวและดีแต่พูดเท่านั้น

ความรักที่อภัยไม่ได้คือต้นทางของความเกลียด ความเกลียดที่ถูกสละทิ้งได้คือต้นทางของความรัก

มีความสามารถในการผ่านรักร้าว ดีกว่ามีความสามารถฝันถึงแต่รักแสนหวาน

คนที่เอาแต่คอยความรักจะไม่เจอความรักไปจนตาย ส่วนคนที่เอาแต่สร้างความรักจะรู้จักความรักในสามวันเจ็ดวัน

อำนาจนัยน์ตาของคนที่รักคุณจริง
อาจทำให้คุณสงบลงได้ทั้งที่กำลังวุ่นวายสิ้นดี

แต่อำนาจนัยน์ตาของคนที่เอาแต่เรียกร้องให้คุณรัก
อาจทำให้คุณวุ่นวายสิ้นดีทั้งที่กำลังสงบอยู่แท้ๆ

โดย คุณ ดังตฤณ